#1 tech recruiter in thailand

5 Dev Tools ที่ควรจับตามอง ในปี 2022

เราทุกคนก็คงคุ้นเคยกับการทำงานแบบ Remote Work กันแล้ว ทำให้เกิดความต้องการด้านนวัตกรรมและการปรับปรุงการทำงานร่วมกันสำหรับ Remote Teams (และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dev Teams) ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในแนวโน้มที่มีอิทธิพลมากที่สุด ที่เราสามารถเห็นได้ในอุตสาหกรรมนี้ ในบทความนี้ คุณ Carlo Morrone ได้รวบรวม 5 Dev Tools ที่ควรจับตามอง ในปี 2022 ซึ่งเขาเชื่อว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนา Daily Workflows ของคุณได้

1. GitLive

Pain: ไม่มี Communication Tools ที่ออกแบบมาเพื่อ Developers โดยเฉพาะ

Solution: GitLive — Extend IDE ของคุณ ด้วย Real-time Collaborative Superpowers

สมมติว่าทีมของคุณใช้ Git อยู่แล้ว GitLive จะเป็นตัวที่เพิ่มประสิทธิภาพ สำหรับ Built-in Git Functionality ของ IDE ของคุณไม่อย่างง่ายดาย เมื่อ Install แล้ว เพิ่ม Team View ซึ่งจะแสดง Work In Progress ทั้งหมด สำหรับผู้ที่ทำงานร่วมกันแต่ละคน จาก Git Repository ของคุณ  ไม่ว่า Non-stale Branch ก่อน Master หรือ Main ก็จะถือว่าอยู่ใน Work In Progress และคุณสามารถตรวจสอบความแตกต่างของไฟล์ที่เปลี่ยนแปลงได้ ตลอดจนสามารถดู Issue ที่เกี่ยวข้องหรือ Pull Request ได้

แต่ Feature ที่คุณ Carlo Morrone โปรดปรานคือ Automatic Merge Conflict Detection ซึ่งแสดงความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงในเครื่องของคุณและ Work In Progress ของเพื่อนร่วมทีม โดยจะแสดงไฟล์ที่คุณเปิดอยู่ปัจจุบันใน Gutter ของ Editor ของคุณ มันแสดงให้คุณเห็นถึงประเภทของการเปลี่ยนแปลง (Addition, Deletion, Modification หรือ Conflict) และคุณสามารถตรวจสอบเพื่อดูความแตกต่าง ว่ามาจาก Branch ใด หรือแม้แต่เลือกเพียงแค่ส่วนที่ต้องการ ลงไปใน Local File ของคุณ

GitLive จะมีประโยชน์มากสำหรับทีมขนาดใหญ่ และมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Open หรือ  Inner Source Projects เนื่องจาก Features เหล่านี้ทำงานข้าม Forks ได้ สิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างก็คือ ข้อมูลที่ส่งตรงจาก Git ไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเองเพื่อให้เป็นข้อมูล Update ล่าสุด

2. CodeSee Maps

Pain: Codebases ที่ซับซ้อนและปริมาณเยอะ ทำให้คนร่วมทีมไม่เข้าใจว่า Code และ Functionality ทั้งหมดจับคู่กันอย่างไร

Solution: CodeSee Maps — Tool สำหรับ Developers ในการ Map Codebase ของพวกเขา แบบ Visual

CodeSee Maps ช่วยให้สามารถ Auto-Generated, Self-Updating Code Diagrams และยังสามารถ Sync Codebase ของคุณเป็น Code ที่ถูกปรับปรุงแล้ว เพื่อให้คุณสามารถระบุ Cross-code Dependencies และ Navigate ระหว่างไฟล์กับโฟลเดอร์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มันสามารถทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ Codebase และ Guide Onboarding, Planning และ Reviews เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเหล่า Developers  แต่มันก็เจ๋งมากสำหรับทุกคนที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม

ในการเริ่มต้นใช้งาน CodeSee Maps คุณจะต้องอนุญาต CodeSee บน GitHub user account ของคุณก่อน จากนั้น Install และให้ Authorize กับ CodeSee Architecture Diagrams GitHub บน Repositories ที่คุณต้องการสร้าง Maps (ซึ่งขณะนี้ Support เพียงแค่ GitHub แต่ BitBucket และ GitLab ยังอยู่ใน Roadmap)

3. DeepSource

Pain:  Code-Reviews ที่ต้องใช้เวลานาน มักทำให้เกิด Human Mistake

Solution: DeepSource — เป็น Static Analysis Platform ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

DeepSource เป็น Static Code Analyser ที่สามารถช่วยคุณตรวจสอบ Code แบบอัตโนมัติ และประหยัดเวลาของทีมได้เป็นอย่างมาก มันสามารถเจอปัญหาใน Codebase และส่ง PRs เพื่อแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ (และสามารถประเมิน Code ที่เข้ามาใน PRs และแก้ไขได้ด้วย) โดยมี Analyzers ที่รองรับ ได้แก่ Docker, Java, JavaScript, Go, Python, Ruby รวมถึง PHP และ SQL ซึ่งยังเป็น Beta อยู่ และสามารถ Integrates กับ GitHub, GitLab และ Bitbucket (Self-hosted ก็มีให้เช่นกัน)

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ในการ Deploy On-premise และคุณสงสัยใช่ไหมล่ะว่า สิ่งนี้จะสามารถพัฒนาวิธีการทำงานในทีมของคุณได้อย่างไร? DeepSource ระบุว่าการใช้เครื่องมือนี้สามารถประหยัดเวลาโดยเฉลี่ย 3.8 ชั่วโมง/Developer 1 คน ใน 1 สัปดาห์ เชียวนะ

4. Appsmith

Pain: ความต้องการ CRUD Apps จำนวนมากภายในองค์กร ซึ่งกลายเป็นงานที่ซ้ำซากและมักใช้เวลานาน

Solution: Appsmith — คือ Open-source Framework เพื่อสร้าง Internal Tools

Appsmith อธิบายตัวเองว่าเป็น “The UI Tool for Busy Developers” และมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทีมที่สร้าง Internal Apps จำนวนมากที่ Host อยู่ใน Infrastructure และ Firewall ของพวกมันเอง คุณสามารถสร้าง Admin Panels Workflows และ Dashboards ที่ดูดีได้อย่างง่ายดาย โดย Dragging และ Dropping Pre-made, Customizable Widgets ซึ่งคุณสามารถ Integrate กับ REST หรือ GraphQL API และใช้ JS หรือ Library เพื่อสร้าง Logic สำหรับ App ของคุณ

5. WayScript

Pain: การตั้งค่า Internal Tooling และ Applications นั้น ใช้เวลานาน และทำให้ Developers ไม่เจอกับปัญหาที่แท้จริงที่พวกเขากำลังพยายามแก้ไข

Solution: WayScript — วิธีที่เร็วที่สุดในการเปลี่ยน Local Code ของคุณให้เป็น Hosted App

WayScript เป็น Development Hub สำหรับ Internal Tools มี Pre-configured Containers ซึ่งคุณสามารถสร้างได้เพื่อให้ Code ทำงานร่วมกับ Infrastructure ที่มีอยู่ในทีมของคุณ โดยคุณสามารถตั้งค่า API ได้อย่างรวดเร็ว (ซึ่งตามหลักแล้วเป็นงานที่ใช้เวลานาน แต่ยังจำเป็นสำหรับ Technical Customers) Servers, Cron Tasks, Custom Inpoints, Interfaces และอื่น ๆ เมื่อเครื่องมือพร้อมแล้ว คุณสามารถ Deploy เพียงคลิกเดียว และส่งให้ทีมของคุณ (คุณสามารถใช้ได้โดย Download ผ่าน Local App หรือ Web Application)

และนี่คือบทความส่งท้ายปี 2564 จาก ISM เราหวังว่าบทความของเราตลอดทั้งปีที่ผ่านมาจะมีประโยชน์สำหรับทุกท่าน และ 5 Dev Tools ที่ควรจับตามอง ในปี 2022 ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะสามารถช่วยพัฒนา Workflows ของคุณ และเปลี่ยนการทำงาน Remote Work ของคุณให้ราบรื่นขึ้นในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้

สุดท้ายนี้ทาง ISM ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า และอย่าลืมนึกถึง ISM ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนงานในสายไอที เพราะเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ สามารถติดต่อ ISM Technology Recruitment และส่ง Resume ของคุณมาได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume เพื่อให้เราช่วยหางานที่ใช่สำหรับคุณ

Source: https://betterprogramming.pub/

thth