#1 tech recruiter in thailand

Front-end RoadMap สำหรับปี 2024

Frontend Roadmap 2024

สำหรับ Front End Development เป็นสาขาที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพราะเมื่อเทคโนโลยีเกิดขึ้นและแนวปฏิบัติมีการพัฒนา ดังนั้น การปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอถือเป็น กุญแจสำคัญ บทความนี้จะพูดถึง Front-end RoadMap สำหรับปี 2024 มาดูกันเลย!

1. Basic Skills

  • HTML: ทำความเข้าใจโครงสร้างของ Web Pages ด้วย HTML5
  • CSS: เรียนรู้การจัด Style ของ Web Pages รวมถึง layouts Responsiveness และ Animations
  • JavaScript (JS): พัฒนาความเชี่ยวชาญใน JS ซึ่งเป็นภาษาสคริปต์ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาแบบ Dynamic ได้

Basic Skills

2. Development Tools

  • Code Editors: ทำความคุ้นเคยกับโปรแกรม Code Editor ต่าง ๆ เช่น VS Code หรือ Sublime Text
  • Version Control/Git: เรียนรู้วิธีใช้ Version Control Systems โดยเฉพาะ Git เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและการทำงานร่วมกับทีม
  • Browser Developer Tools: ทำความคุ้นเคยกับ Chrome DevTools หรือเครื่องมือที่คล้าย ๆ กัน สำหรับการ Debug

Development Tools

3. Design และ UI/UX Principles

  • Responsive Design: เรียนรู้ Frameworks เช่น Bootstrap หรือ Foundation หรือศึกษา CSS Grid และ Flexbox
  • UI/UX Best Practices: ทำความเข้าใจพื้นฐานของ User Interface และ User Experience design

Design and UI/UX Principles

4. Advanced CSS

  • Preprocessors: เรียนรู้ Sass หรือ LESS เพื่อเขียน CSS ที่สามารถ Maintain ได้มากยิ่งขึ้น
  • CSS Frameworks: ทำความเข้าใจกับ Frameworks อย่าง Tailwind CSS หรือ Bootstrap
  • CSS Architecture: ทำความเข้าใจวิธีการต่าง ๆ เช่น BEM, SMACSS หรือ OOCSS

5. JavaScript Deep Dive

  • ES6+ Features: เรียนรู้ Features ล่าสุดของ JS
  • DOM Manipulation: ทำความเข้าใจวิธีโต้ตอบกับ Document Object Model โดยไม่ต้องใช้ Libraries
  • Fetch API / AJAX: เรียนรู้วิธีส่งคำขอแบบ Asynchronous ไปยัง API
  • Design Pattern
  • Prototypal Inheritance กับ Classical Inheritance
  • Event Loop
  • Event Delegation
  • CRP — Defer กับ Async — Parser Blocking กับ Render Blocking
  • Web API
  • Promises / Async / Await
  • Closures/ SCOPE/IIFE — JS Polyfils — Call/Apply/Bind
  • Web Security
  • Web Accessibility
  • Web Performance
  • จะปรับปรุงประสิทธิภาพของ Page Load ได้อย่างไร?

6. Front-End Frameworks/Libraries

  • js: Front-end Library ยอดนิยม
  • js: ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเรียบง่ายและง่ายต่อการเรียนรู้
  • Angular: เป็น Framework ที่มีเครื่องมือครบทุกอย่าง ดังนั้น จึงมีช่วงการเรียนรู้ที่สูงชันมากขึ้น

7. State Management

  • Context API / Redux: ใช้สำหรับ State Management ใน React Applications
  • Vuex: ใช้สำหรับ State Management ใน Vue Applications
  • NgRx or Services: ใช้สำหรับ State Management ใน Angular Applications

8. Module Bundlers และ Task Runners

  • Webpack: Static Module Bundler สำหรับ JavaScript Applications สมัยใหม่
  • Parcel: เป็นเครื่องมือรวม Web Application ที่ต้องการกำหนดค่าเป็นศูนย์
  • Gulp/Grunt: เครื่องมือที่ใช้สำหรับทำงานซ้ำ ๆ ในการพัฒนาเว็บโดยอัตโนมัติ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเกิดข้อผิดพลาดน้อยลง

9. Package Managers

  • NPM หรือ Yarn: เรียนรู้วิธีจัดการ Dependencies สำหรับ Project ของคุณ

10. Testing

  • Unit Testing: เรียนรู้การทดสอบกับ Jest หรือ Mocha
  • End-to-End Testing: ทำความเข้าใจการทดสอบด้วยเครื่องมือเช่น Cypress หรือ Selenium

11. Modern APIs

  • REST: ทำความเข้าใจหลักการของ RESTful APIs
  • GraphQL: เรียนรู้วิธีใช้ GraphQL เพื่อการดึงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

12. Static Site Generators

  • js (สำหรับ React): Framework ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุง React Applications โดยมี Feature ต่าง ๆ เช่น Server-rendered และ Statically Exported React Apps
  • js (สำหรับ Vue): Framework ที่ใช้งานง่าย สำหรับการสร้าง Vue.js Applications แบบ Server-rendered

13. Jamstack และ Headless CMS

  • Jamstack Concepts: Pre-rendering, decoupling และ static site generation
  • Headless CMS: Contentful, Sanity, Strapi หรือ Netlify CMS

14. Deployment และ Hosting

  • Netlify: Platform ยอดนิยมในการ Deploy สำหรับ Static Sites พร้อม CI/CD Integration ที่ดี
  • Vercel: คล้ายกันกับ Netlify แต่ Developer ส่วนใหญ่มักเลือกใช้ Vercel เพื่อ Deploy ในjs Project มากกว่า
  • GitHub Pages: Hosting ที่เรียบง่าย สำหรับ Project Pages
  • Docker: ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Containerization

15. Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD)

  • GitHub Actions: สำหรับ Workflows แบบอัตโนมัติ
  • Jenkins: สำหรับการจัดการ Pipelines ที่มีการ Deploy ที่ซับซ้อนมากขึ้น

16. Web Performance Optimization

  • Code Splitting: การลดขนาด Bundle ของ Applications เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็ว
  • Lazy Loading: ทำการ Load เนื้อหาตามที่ต้องการ
  • Caching: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Browser Caching และ Service Workers

17. Progressive Web Apps (PWAs)

  • Service Workers: สำหรับ Offline Support และ Network Resilience
  • Manifest File: สำหรับปรับปรุงประสบการณ์ของ User ทั้งในรูปแบบ Home Screen และ Full-screen

18. Accessibility

  • ARIA: (Accessible Rich Internet Applications) คือ มาตรฐานในการออกแบบเว็บไซต์เพื่อทำให้เนื้อหาสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
  • WCAG: (Web Content Accessibility Guidelines) คือ มาตรฐานในการออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้

19. Soft Skills

  • Communication: การสื่อสารมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม
  • Problem-Solving: ทักษะการวิเคราะห์เพื่อแก้ไข Development Issues
  • Time Management: จัดสรรเวลาในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งมอบตรงตามกำหนดเวลา

และทั้งหมดนี้ก็คือ Front-end RoadMap สำหรับปี 2024 หวังว่าตัวช่วยทั้ง 19 ข้อที่กล่าวมาจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมและสามารถพัฒนาทักษะในส่วนของ Front-end ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นนะคะ

เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่

ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย

Source: https://sonikamaheshwari067.medium.com/

บทความที่ใกล้เคียง

แจกฟรี! 7 Image Tools สำหรับ Frontend Developer

สำหรับ Frontend Developer “รูปภาพ” เป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์ในโลกดิจิทัล ขอแนะนำ แจกฟรี! 7 Image Tools สำหรับ Frontend Developer

th