ในบทความนี้ คุณ Yog, Senior Software Engineer จะมาแชร์ 7 Prompt ที่ใช้จริงในฐานะ Developer เขาได้ปรับแต่งและนำกลับมาใช้ซ้ำในหลาย Project กับ 7 Prompt คู่ใจ ตัวช่วยประหยัดเวลา สำหรับ Developer
บาง Prompt เกิดจากความหงุดหงิด บ้างก็ได้มาจากการเลื่อนดู Stack Overflow ตอนดึก ๆ แต่ทุกอันเกิดจากประสบการณ์จริง และที่สำคัญคือ มันใช้ได้ผลจริง มาเริ่มดูกันเลย
1. อธิบาย Code เหมือนเพิ่งเริ่มเรียน
ให้ลองใช้ Prompt นี้เวลาที่ต้องรีวิว Code ของคนอื่น หรือกลับมาดู Code ของตัวเองที่เขียนไว้หลายเดือนก่อน บางครั้งเราก็ต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนแบบภาษาที่เข้าใจง่าย เหมือนมีเพื่อนร่วมทีมมายืนอธิบายให้ฟังบนกระดาน
Prompt:
“คุณเป็น Senior C# Developer อธิบาย Method ต่อไปนี้ เหมือนกำลังสอน Junior Developer แบ่งอธิบายทีละส่วน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และสมมติว่าผู้ฟังมีพื้นฐาน C# อยู่แล้ว ปิดท้ายด้วยสรุปว่า Function นี้ทำอะไร”
// Paste your method here
ทำไมใช้ได้ผล:
- คุณกำหนดบทบาทให้ Model ได้ชัดเจนว่า เป็น Senior Developer ที่กำลังอธิบาย
- คุณบอกชัดว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ใช่มือใหม่ซะทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
- ผลลัพธ์ที่ได้ จะฟังดูเป็นภาษาธรรมชาติ ไม่ใช่แข็ง ๆ แบบหุ่นยนต์ และบางครั้งเอาไปใช้ใน Document หรือ Comment ได้เลย
ซึ่งมันไม่ได้ช่วยแค่ให้อ่าน Code ให้เข้าใจ แต่ยังสามารถใช้สอนคนอื่นว่า Code นี้ทำงานอย่างไร โดยไม่ต้องมานั่งเขียนใหม่เองทั้งหมด
2. สร้าง Test (Prompt ที่ช่วยชีวิตได้ทั้งสัปดาห์)
คุณ Yog จะเล่าให้ฟังว่าเขาสร้าง Prompt นี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ตอนนั้นเรากำลังเตรียมปล่อย Version ใหม่ โดยเพิ่งเขียน Module คำนวณราคาเสร็จ ซึ่งมี Business Logic ที่ซับซ้อนมาก แถมมี Case แปลก ๆ เต็มไปหมด และรู้ไหมว่าเขายังไม่ได้เขียน Unit Test เลย? วันศุกร์แล้ว สมองของคุณ Yog ก็แทบจะพังแล้ว เขาก็เลยเอา Method หลัก ใส่เข้าไปใน GPT-4 พร้อม Prompt นี้:
Prompt:
“ผมใช้ xUnit เพื่อทดสอบ C# Method นี้ ช่วยสร้าง Method สำหรับ ทดสอบ 5 – 6 อัน ที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานปกติและ Edge Case โดยใช้ชื่อ Test ที่มีความหมาย และใส่ Comment อธิบายว่าแต่ละ Test ตรวจสอบอะไร”
// Your method here
มันให้ Test ที่ดีมา 4 Case และยังเตือนว่า คุณ Yog ลืม Case ที่ customerLoyaltyYears มีค่าติดลบ
ทำไมใช้ได้ผล:
- คุณระบุ Framework ที่จะใช้ทดสอบชัดเจน ซึ่งสำคัญมาก
- คุณบอกว่าจะให้ทดสอบอะไรบ้าง: Happy Path + Edge Case
- คุณขอ Comment ประกอบ ทำให้ Test กลายเป็นเนื้อหา สำหรับใช้เรียนรู้ด้วย
Prompt นี้ช่วยให้ประหยัดเวลาได้อย่างน้อย 90 นาทีในวันนั้น และตอนนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรในการเขียน Code ของคุณ Yog ไปแล้ว
3. ปรับ Code รก ๆ ให้อ่านง่ายขึ้น
บางทีเราก็เขียน Method เสร็จแล้ว อาจจะรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งมันทำงานได้ก็จริง แต่ Code ดูรก ซ้ำซ้อน และอาจจะผสมหน้าที่หลายอย่างเกินไป นี่แหละเวลาที่ควรให้ AI เป็นเพื่อนช่วยช่วยตรวจและปรับปรุง Code:
Prompt:
“ช่วย Refactor ตัว C# Method นี้ให้ Code อ่านง่ายและดูแลรักษาง่ายขึ้น ถ้าจำเป็นให้แยกออกเป็น Functionย่อย ปรับปรุงชื่อของตัวแปร แต่คง Logic เดิมไว้ หลังจากทำการ Refactor แล้ว อธิบายว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร และทำไมมันถึงดีกว่าเดิม”
// Your ugly function
ทำไมใช้ได้ผล:
- คุณไม่ได้ขอให้เขียน Code ใหม่ แต่ขอให้ “ปรับปรุง” Code เดิม
- การให้ AI อธิบายสิ่งที่เปลี่ยน ช่วยให้คุณได้เรียนรู้ ไม่ใช่แค่ Copy-paste
- ผลลัพธ์จะสะอาดขึ้น และเข้าใกล้หลักการ SOLID มากขึ้น
คุณ Yog ใช้วิธีนี้ตั้งแต่ API Controller ไปจนถึง Batch Processor ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ Code สมบูรณ์ 100% แต่ช่วยได้ประมาณ 80% ของงาน
4. รีวิว Code ก่อนปล่อยขึ้นระบบ
ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่มีทีมมาช่วยรีวิว Code ให้ทุกครั้งก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควร Commit แบบไม่ได้ตรวจสอบเลย เวลาที่ต้องการ Feedback เรื่อง Structure, Naming, Performance หรือแค่ Sanity Check คุณ Yog จะใช้:
Prompt:
“ทำตัวเป็น Senior Developer ที่กำลังรีวิว Code นี้ ให้ข้อเสนอแนะเป็น Bullet Point เกี่ยวกับความถูกต้อง, Efficiency, Naming, Readability และ Best Practices ถ้ามีอะไรเสี่ยงทำให้เกิด Bug หรือสามารถทำให้ง่ายขึ้นได้ ให้บอกด้วย”
ทำไมใช้ได้ผล:
- คุณกำหนดบทบาทชัดเจน: Senior Developer ที่กำลังรีวิว
- คุณกำหนดหมวดในการ Feedback ไม่ใช่แค่ถามว่า “มันใช้ได้ไหม” แต่ถามว่า “มันดีหรือยัง”
- ผลลัพธ์ที่ได้มักจะตรงไปตรงมา รวดเร็ว และมีประโยชน์
โดย Prompt นี้เคยจับได้ว่า:
- ตัวแปรอาจมีค่า Null (แต่ไม่ได้ตรวจสอบ)
- Loop สามารถเขียนให้เป็น LINQ Query แทนได้
- ชื่อ Method ที่ไม่เหมาะสม (เพราะเขียนตอนเหนื่อย)
ซึ่งคุณ Yog ใช้ก่อน Commit ทุกครั้ง เร็วกว่ารอเพื่อนร่วมทีมอีก และมักจะถูกต้องเกือบตลอด
5. เขียน Documentation จาก Code Comment
เรามักจะเขียน Comment สั้น ๆ และดูไม่เป็นทางการ เช่น:
// Gets all users with active subscriptions
แต่ถ้าต้องทำเอกสารจริง ๆ ให้ Endpoint หรือ Function คุณ Yog จะใช้ Prompt นี้:
Prompt:
“เปลี่ยน Comment นี้ให้เป็น Documentation อย่างเต็มรูปแบบ ระบุวัตถุประสงค์, Parameter, Return Type และตัวอย่างการใช้งาน สมมติว่าผู้ใช้เอกสารเป็น Developer ที่เพิ่งเข้ามาใน Project”
// Gets all users with active subscriptions
public List<User> GetActiveUsers() { … }
ทำไมใช้ได้ผล:
- มันขยาย Comment สั้น ๆ ให้กลายเป็นข้อมูลที่บำรุงรักษาได้
- ได้ XML Summary หรือ Markdown ที่พร้อมใช้
- ถ้าคุณบอกให้เพิ่ม “ตัวอย่างการใช้งาน” มันจะเพิ่ม Code ตัวอย่างให้อีกด้วย
คุณ Yog มักใช้ Prompt นี้คู่กับ Prompt ในข้อ 1 เพื่อสร้าง Documentation จาก Code จริง โดยเฉพาะตอนเตรียม Handoff หรือ Onboarding
6. สรุปเนื้อหาไฟล์ Code ให้เข้าใจได้เร็ว
ไฟล์ Code ใหญ่ ๆ บางทีอ่านแล้วเหนื่อย โดยเฉพาะเวลาจะเข้าไปแก้จุดเล็ก ๆ แทนที่จะใช้เวลานั่งไล่อ่าน 20 นาที ลองใช้ Prompt นี้:
Prompt:
“ช่วยสรุปว่าไฟล์ C# นี้ทำอะไรบ้าง ให้ระบุชื่อ Class และ Method ทั้งหมด พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ของแต่ละอัน ไม่เกิน 150 คำ”
// Paste the file or large part of it
ทำไมใช้ได้ผล:
- เหมาะสำหรับการ Onboarding (โดยเฉพาะ Code เก่า)
- ทำให้รู้ว่า “ไฟล์นี้ทำอะไร” ก่อนจะลงมือแก้ไข
- สะอาดพอที่จะคัดลอกไปใส่ใน README หรือ Wiki ได้
คุณ Yog ใช้วิธีนี้ กับไฟล์ใน Service Layer เพื่อสร้างเอกสารภายในแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องทำมือทั้งหมด
7. ช่วยแก้ Error นี้ให้หน่อย
คุณอาจจะเอาข้อความ Stack Trace นั้นไปค้นหาใน Google ก็ได้ หรือคุณจะวางมันลงใน AI ที่เคยอ่าน Error และเรียนรู้จาก Stack Trace นับสิบล้านครั้งมาแล้วก็ได้
Prompt:
“เจอ C# Error นี้ ช่วยอธิบายว่ามันหมายความว่าอะไร และมักเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีแก้ 1 – 2 วิธี”
Error: Object reference not set to an instance of an object
// Paste the related code here
ทำไมใช้ได้ผล:
- คุณจะได้มากกว่าแค่คำตอบ คือได้เหตุผลว่าทำไมถึงเกิด
- มักจะเสนอหลายแนวทาง เช่น Guard Clauses, Null Propagation หรือ Logging
คุณ Yog ใช้ Prompt นี้ตอนต้องแก้ปัญหาใน Production ที่ต้องการความชัดเจนและรวดเร็ว
สุดท้ายนี้คุณไม่จำเป็นต้องเป็น “Prompt Engineer” ถึงจะได้คำตอบดี ๆ จาก AI แค่มี Prompt ที่ดีก็พอ โดย Prompt ทั้ง 7 นี้ คือสิ่งที่คุณ Yog ใช้ทุกวัน ในการพัฒนา และงานจริงตาม Deadline ซึ่งช่วยประหยัดเวลา เพิ่มคุณภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยให้คิดได้เร็วขึ้น ลองเริ่มจากใช้สักอันหนึ่ง ปรับให้เหมาะกับคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าจากเดิมที่คุณ “ใช้ AI” คุณได้เริ่ม “ทำงานร่วมกับ AI” จริง ๆ แล้ว
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 Prompt คู่ใจ ตัวช่วยประหยัดเวลา สำหรับ Developer
เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย