See the original English version of this article here
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์มีความชาญฉลาดเพียงพอที่จะจัดการและเข้าใจงานที่ท้าทายและซ้ำซากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ดำเนินการตามคำสั่งที่ซับซ้อน ดังนั้น AI เป็นตัวขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่สำคัญในหลายอุตสาหกรรม โดยการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ บทความนี้จึงได้รวบรวม 6 ทักษะที่ต้องมี สำหรับงานด้าน AI ในปี 2025 เพื่อให้คนไอทีอย่างคุณได้เตรียมตัวสำหรับโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพการทำงาน
การวิจัยจาก Fortune Business Insights คาดการณ์ว่า ตลาด AI ทั่วโลกจะเติบโตถึง 360 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 และมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ 33.6% ระหว่างปี 2021 – 2028 การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ทำให้มีความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ AI ที่ทันสมัยเพิ่มมากขึ้น ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่
งานยอดนิยมที่ต้องการทักษะ AI
โอกาสในการหาตำแหน่งงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคส่วนของไอทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาคส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การเงิน การขาย การตลาด การวิจัยและพัฒนา และอื่น ๆ โดยองค์กรต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมกำลังใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI เพื่อปลดล็อกศักยภาพการเติบโตที่ไร้ขีดจำกัด และเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ นี่คืออาชีพด้าน AI อันดับต้น ๆ ในปี 2025
- Business Intelligence
- AI Engineer
- AI Research Scientist
- Robotics Engineer
- AI Ethics Specialist
- Data Engineer
- AI Product Manager
- AI Safety Engineer
- NLP (Natural Language Processing) Engineer
บทบาทและความรับผิดชอบของงานด้าน AI จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เจาะจง หากคุณกำลังมองหางานที่มีค่าตอบแทนสูง สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเงินเดือนในสายงาน AI จะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ ทักษะ ความรู้ สถานที่ตั้ง บริษัท อุตสาหกรรม และบทบาทเฉพาะ ถึงเวลามาดูกันว่า 6 ทักษะที่ต้องมี สำหรับงานด้าน AI ในปี 2025 มีอะไรบ้าง
1. Programming Skills
ในการทำงานด้าน AI จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียน Code และภาษา Programming เป็นอย่างดี ทักษะเหล่านี้มีความจำเป็น สำหรับการออกแบบและการนำ ML (Machine Learning) Algorithms, Computer Vision Systems และ NLP (การประมวลผลภาษาธรรมชาติ) ที่ซับซ้อนมาใช้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเป็น ML Engineer, Computer Vision Engineer, Algorithm Developer และ SLAM Engineer จำเป็นต้องเชี่ยวชาญทักษะพื้นฐานเหล่านี้
ใครก็ตามที่ทำงานหรือจะเข้าสู่สาขา AI จะได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้ภาษา Programming ต่อไปนี้ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการพัฒนา AI
Python: เป็นภาษา Programming ยอดนิยม สำหรับ AI เนื่องจากมี Libraries และ Frameworks มากมาย โดย Python มีแพ็คเกจมากมายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อรองรับงานและความสามารถต่าง ๆ ของ AI
R: เป็นภาษา Programming ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะ สำหรับการคำนวณทางสถิติ, Machine Learning และฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย
C++: เป็นภาษา Programming ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งใน AI โดยเฉพาะการเขียน Program เชิงกระบวนการและการปรับใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Java: ถูกใช้อย่างแพร่หลายในงาน Mappers และ Reducers, Genetic Programming, Neural Networks และงานที่เกี่ยวข้องกับ AI อื่น ๆ
2. ML และ Deep Learning
ผู้ที่กำลังหางานหรือผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จำเป็นต้องมีความชำนาญใน Machine Learning (ML) และ Deep Learning Techniques เพื่อจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้สามารถพัฒนาระบบอัจฉริยะที่เข้าใจได้และปรับเปลี่ยนได้ ตั้งแต่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, Medical Application, Virtual Assistant ไปจนถึงหุ่นยนต์ ซึ่ง Deep Learning ถูกนำมาใช้ใน Transformative Technology มากมาย
การเรียนรู้ Deep Learning Networks จะช่วยให้คุณจดจำรูปแบบข้อมูลที่ซับซ้อนและดำเนินการต่าง ๆ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการจดจำภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเรียนรู้ของ Machine Learning ยังช่วยให้คุณเข้าใจถึงวิธีการเลือก Algorithm ที่เหมาะสม, Model Training และวิธีการตรวจสอบโมเดลได้อย่างเหมาะสม
3. Intelligent User Interfaces (IUI)
ปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Nest Hub ของ Google และ Echo ของ Amazon ได้รับความนิยม เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานตามคำสั่งของเราได้อย่างราบรื่น อุปกรณ์เหล่านี้มีการโต้ตอบสูง และเป็น Intelligent Interface เพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่า End-users สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ที่เข้าใจ Intelligent User Interfaces (IUI) และออกแบบ User Interfaces ให้เป็นมิตรต่อ User ซึ่งต้องใช้ทักษะในการรับรู้ปัจจัยของมนุษย์และเชี่ยวชาญในการโต้ตอบกับ AI ในการ สร้าง / ใช้ / วิเคราะห์ IUI เหล่านี้
4. การสื่อสาร
นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี เพื่ออธิบายแนวคิดและผลการค้นพบด้าน AI ที่ซับซ้อนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคได้เข้าใจอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยในการหารือถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้ AI และทราบว่าเมื่อใดที่ไม่ควรใช้ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ภาษากายและน้ำเสียงที่เหมาะสม ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้แน่ใจว่าสมาชิกในทีมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน Project เข้าใจถึงความคืบหน้า
5. การคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา
หากคุณอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จำเป็นต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา เพื่อแบ่งปัญหาที่ซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อย ๆ ที่จัดการได้ ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นและบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์จะช่วยให้รับมือกับความท้าทายของการนำ AI ไปใช้ ค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ เข้าใจข้อดีและข้อเสียของแนวทางต่าง ๆ และปรับผลลัพธ์ให้เหมาะสมที่สุด
6. การตัดสินใจ
องค์กรส่วนใหญ่กำลังรับสมัครผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กร ดังนั้น ทักษะการตัดสินใจที่ดีจึงมีความสำคัญต่ออาชีพด้าน AI ทักษะเหล่านี้ช่วยสามารถตัดสินใจทางธุรกิจอย่างรอบรู้และมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบจากการตัดสินใจดังกล่าวที่มีต่อองค์กรและบุคลากรขององค์กร
วิธีในการพัฒนาทักษะ AI ที่จำเป็นคืออะไร?
มีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้มากมายบนออนไลน์ ที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้ AI และพัฒนาทักษะที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การได้รับ AI Certification ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ถือเป็นสิ่งที่มีค่า เนื่องจากเป็นการยืนยันทักษะและความทุ่มเทในการเรียนรู้ หลักสูตรที่มีใบรับรองเหล่านี้ มีให้เลือกทั้งระดับ Beginner, Intermediate และ Advanced ซึ่งช่วยให้ได้รับทักษะใน AI Ecosystem สิ่งสำคัญคือต้องเลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับเป้าหมายอาชีพ และความสามารถในการเรียนรู้ของคุณ และเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม AI
ดังนั้น ทักษะสำคัญทั้ง 6 ประการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเป็นมืออาชีพด้าน AI ที่ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างต่อเนื่องในโลกของ AI ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับทักษะเหล่านี้ เพื่อการปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจและการดำเนินงาน ทำให้ทักษะเหล่านี้กลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก ดังนั้น สำหรับคนไอที การพัฒนาทักษะเหล่านี้เพิ่มเติมจะช่วยให้คุณได้งานที่มีค่าตอบแทนสูงในภาคส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ยังสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้ด้วยการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้ได้รับทักษะเหล่านี้ ส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโต
และทั้งหมดนี้ก็คือ 6 ทักษะที่ต้องมี สำหรับงานด้าน AI ในปี 2025
เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย