#1 tech recruiter in thailand

จากนักแสดงสู่ Data Engineer: บทสัมภาษณ์ของ Jeff Vermeire

See the original English version of this article here

From Actor To Data Engineer: An Interview With Jeff Vermeire

การสื่อสาร การแก้ปัญหา และความเห็นอกเห็นใจ เป็นสิ่งที่ Jeff ได้เรียนรู้บนเวทีการแสดงทำให้เขากลายเป็น Data Engineer ที่มีความโดดเด่น มาติดตามเส้นทางอาชีพของเขากับบทความ จากนักแสดงสู่ Data Engineer: บทสัมภาษณ์ของ Jeff Vermeire

บทความนี้เป็นหนึ่งในบทสัมภาษณ์จากประสบการณ์จริง จาก “From Anything to Data Engineering” ของ DET โดย Xinran Waibel, Data Engineering ที่ Netflix

เกี่ยวกับ Jeff Vermeire

ปัจจุบัน Jeff Vermeire เป็น Staff Data Engineer โดยอาชีพด้าน Data ของเขา เริ่มต้นจากการเป็น Data Analyst แต่ก่อนหน้านั้นเขาเป็นนักแสดง! ซึ่ง Jeff ใช้เวลา 41 ปีในชีวิตของเขาด้วยอาการสมาธิสั้นที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และด้วยเหตุนี้ เขามีความสนใจในหลากหลายด้าน ตั้งแต่เทนนิส วิ่ง ปั่นจักรยาน และฮอกกี้ ไปจนถึงการทำฟาร์มขนาดเล็ก การออกแบบชุมชนเมือง การเมือง และวิดีโอเกม ล่าสุดเขาค้นพบความหลงใหลในการตั้งแคมป์ หลังจากใช้เวลาทั้งคืนในเต็นท์กับลูกชายในสวนหลังบ้าน

คำถาม: คุณทำอะไรมาก่อนจะเป็น Data Engineering?

ก่อนที่ผมจะมาทำงานในสาย Data ผมเกือบจะไม่รอด ส่วนใหญ่ผมเป็นนักแสดง และออกแบบแสงสำหรับโรงละครซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทน ผมไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าอยากจะทำอะไรกับชีวิตของตัวเอง แต่ผมเป็นนักแสดงได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ดังนั้นผมคิดว่าการแสดงมันเป็นงานที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม จะมีอาชีพไหนที่เปิดโอกาสให้คุณเป็นใครในเวลาใดก็ได้? ผมยังใช้เวลาหลายปีในการขายอุปกรณ์เทนนิส เป็นผู้ฝึกสอน และเป็นคนส่งพิซซา เป็นต้น (มีอีกหลายงานแต่จะให้ผมเล่าให้จบภายในวันเดียวคงเล่าไม่หมด)

เหนือสิ่งอื่นใด ผมกลายเป็นนักเรียนมืออาชีพ ผมสะสมหน่วยกิตแต่ไม่เคยสำเร็จการศึกษา ผมเริ่มต้นในสาขา Computer Engineering เพราะนั่นคือสิ่งที่พ่อแม่ของผมต้องการ หลังจากลาพักการเรียนมาระยะหนึ่ง ผมก็ย้ายไปเรียนเอกการละครและลงเอยด้วยการออกจากโรงเรียน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมลอง Web Design และ Biomimicry Research (การวิจัยการเลียนแบบสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ)

จากนั้นผมก็ได้งาน “อาชีพแรก” เป็น Data Analyst ผมพบว่าผมสามารถมีสมาธิจดจ่อและทำงานเป็นระยะเวลานาน ๆ ในแต่ละวันได้จริง ๆ มันไม่รู้สึกเหมือนกำลังทำงานอยู่ มันรู้สึกเหมือนกำลังไขปริศนา!

นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมหลงรัก Data Engineering: ความสามารถในการไขปริศนาหรือปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งน้อยคนนักจะสามารถทำได้

คำถาม: อะไรที่คุณพบว่าท้าทายที่สุด เมื่อเปลี่ยนมาเป็น Data Engineer?

สิ่งที่ยากที่สุดคือ บริษัทต่าง ๆ มักใช้ Tech Stack ที่ต่างกัน ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน สำหรับ Data Engineers ผมมีพื้นฐานที่ดีใน Data Modeling และ Data Pipelines และผมรู้ว่าผมสามารถเรียนรู้อะไรก็ได้ที่งานใหม่ต้องการ อย่างไรก็ตาม มันยากมากที่จะพิสูจน์ให้คนแปลกหน้าเห็นว่าผมเป็นคนเรียนรู้เร็ว

Recruiter: “คุณมีประสบการณ์ Snowflake หรือไม่?”

Jeff Vermeire: “ไม่ครับ แต่ผมมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ BigQuery และ RedShift”

Recruiter: “บริษัทกำลังมองหาคนที่มีประสบการณ์ Snowflake จริง ๆ”

แม้ว่าสิ่งนี้อาจทำให้หงุดหงิดหัวเสียสักหน่อย แต่ผมเชื่อว่าเมื่อ Recruiters และ Hiring Managers มีความเข้าใจเกี่ยวกับ Data Engineering มากขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น แนวทางหนึ่งที่ผมใช้เพื่อเอาชนะสิ่งนี้ในการสัมภาษณ์ คือ การให้สัมภาษณ์ในเชิงรุก ผมมักจะพูดว่า “ผมมีประสบการณ์เทียบเท่ากับ BigQuery และ Redshift” หรือ “ผมมั่นใจว่าประสบการณ์อันยาวนานของผมกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันนั้น จะทำให้ผมมีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการเข้าใจและใช้ Snowflake ได้อย่างง่ายดาย”

บางครั้งผมก็ยังลงเอยด้วยการถูกปฏิเสธ และนั่นก็ไม่เป็นไร หากบทบาทหรือตำแหน่งนั้นตายตัว ให้มุ่งเน้นไปที่เครื่องมือเฉพาะ นั่นหมายความว่ามันไม่เหมาะกับผม เพราะผมอยากลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

BennySouthstreet

Jeff (ล่างซ้าย) รับบทเป็น Benny Southstreet ในเรื่อง Guys and Dolls ที่ Butler, Pennsylvania

คำถาม: คนส่วนใหญ่มักพูดถึง Transferable Skills (ทักษะที่สามารถถ่ายทอดส่งต่อได้ ประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายบทบาท เช่น การบริหารเวลา การแก้ปัญหา เป็นต้น) มีทักษะที่คุณได้เรียนรู้จากการแสดงที่ช่วยให้คุณเป็น Data Engineer ที่ดีขึ้นหรือไม่?

สิ่งแรกเลยคือ การสื่อสาร! คุณจะไม่ใช่นักแสดงที่ประสบความสำเร็จ หากคุณไม่สามารถมีส่วนร่วมกับบุคคลที่คุณแสดงบนเวทีด้วยได้ ผมยังได้เรียนรู้วิธีวิเคราะห์เอกสาร และคาดการณ์ว่า “การถาม” ที่แท้จริงคืออะไร พวกเขาอาจไม่ได้แสดงเจตนาที่แท้จริงโดยตรงเสมอไป ซึ่งมักมีความหมายโดยนัยหรือซ่อนเร้นอยู่ที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน

และทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับผม คือ การแก้ปัญหา หรือ Problem-solving ในช่วงที่ผมเป็นนักแสดง ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดก็ตามที่นำเสนออยู่ตรงหน้าผม เป็นเพียงภูเขาน้ำแข็งของเรื่องราวทั้งหมด และผมต้องเติมเต็มส่วนที่เหลือ ตัวอย่างเช่น เมื่อผมรับบทเป็น Lank Hawkins ในเรื่อง Crazy for You (ซึ่งบังเอิญเป็นตอนที่ผมได้พบกับภรรยาของผม) ผมต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบทบาทของ Lank เพื่อดูว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น: “ทำไมเขาถึงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงในชุมชนของเขาได้ขนาดนี้?” หรือ “เขาโตที่ไหน?” เป็นต้น ผมยังทำให้ตัวละครนี้ถนัดซ้าย เพื่อช่วยให้ผมหลุดพ้นจากกรอบความคิดแบบ “Jeff” อีกด้วย

ในการแสดง คนส่วนใหญ่มักพูดถึง “Magic If” (มนต์สมมุติ): ถ้าผมเป็นตัวละครในสถานการณ์นั้น ผมจะทำอย่างไร?

มันช่วยผลักดันให้นักแสดงมองผ่านสายตาของตัวละคร ไม่ใช่ของตัวเอง ซึ่งในบทบาทของ Data Engineering ก็เช่นเดียวกัน ผมพยายามดูข้อมูลผ่านมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ อยู่เสมอ:

  • ถ้าผมเป็น Data Scientist ผมต้องการอะไร?
  • หากผมเป็น Marketing Data Analyst ผมอยากจะพิจารณาเรื่องอะไร?
  • ถ้าผมเป็น ผู้บริหาร C-level ผมจะถือว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญ?

คำถาม: คุณจะให้คำแนะนำอะไรแก่ Data Engineers หน้าใหม่และผู้ที่มีความมุ่งมั่น?

คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ผมสามารถมอบให้กับ Data Engineers หน้าใหม่และผู้ที่มีความมุ่งมั่นได้ คือ การปรับตัวและศึกษาแนวคิดพื้นฐานให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เนื่องจาก Data Engineering Ecosystem มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเครื่องมือหรือเทคนิคใดก็ตามที่กำลังมาแรงในขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะลดลงหรือหายไปภายในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะภายใน 3 ปี ดังนั้น ใครก็ตามที่สามารถปรับตัวได้ ก็จะประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรม

ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณหลงใหลใน Data อย่าให้ใครมาบอกคุณว่าคุณมีประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์ที่ไม่ถูกต้อง หรือเหตุผลไร้สาระอื่น ๆ ที่พวกเขาใช้เพื่อขัดขวางคุณ ปัจจุบันผมไม่มีใบปริญญา และทำสิ่งนี้สำเร็จมากว่า 15 ปีแล้ว มันไม่ง่ายเลย และมีบริษัทมากมายที่ปฏิเสธผมด้วยเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผมยังอยู่ที่นี่และผมก็สู้อย่างเต็มที่ และผมเชื่อว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน

และสุดท้ายนี้ความเห็นส่วนตัวของผม ใครก็ตามที่บอกว่า AI จะทำให้ Data Engineering ล้าสมัยนั้นถือเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด และแทนที่จะล้าสมัย Data Engineering จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทเหล่านี้จะได้ชุดข้อมูลเพื่อมาป้อน Models ขนาดใหญ่ของพวกเขาได้อย่างไร? ดังนั้น บทบาท Data Engineering มีแนวโน้มที่จะดูแตกต่างออกไปใน 3, 5 หรือ 10 ปี แต่นั่นจะเป็นในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ความต้องการทักษะด้าน Data Engineering ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างแน่นอน

และทั้งหมดนี้คือ จากนักแสดงสู่ Data Engineer: บทสัมภาษณ์ของ Jeff Vermeire หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกท่านได้นะคะ 

เมื่อ หางาน IT ให้ ISM Technology Recruitment เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย เพื่อให้คุณได้ “ชีวิตการทำงานในแบบที่คุณต้องการ” เพียงส่ง Resume มาที่นี่

ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย

Source: https://blog.det.life/

en