#1 tech recruiter in thailand

“7 วิธีเติมเชื้อไฟ” สำหรับคนที่ “หมดไฟ”

ในบทความที่แล้ว ได้กล่าวถึง สาเหตุเบื้องต้นรวมทั้งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเกิด “ภาวะหมดไฟในการทำงาน”  ของคนไอทีไปแล้ว สำหรับบทความนี้ จะเป็นข้อแนะนำหากคุณต้องการหลีกหนีจากการหมดไฟ คุณก็ต้องแก้ไขความคิดหรือพฤติกรรม เติมกำลังใจ เติมเชื้อไฟให้ความคิดของคุณสว่างลุกโชนอีกครั้ง ลองมาดูกันเลยว่า “7 วิธีเติมเชื้อไฟ” สำหรับคนที่ “หมดไฟ” มีอะไรบ้าง

หมายเหตุ: หากใครอยากเช็คว่าเราเครียดแค่ไหนลองทำแบบทดสอบของกรมสุขภาพจิตดูได้ ( http://www.dmh.go.th/test/qtest5/ )

1. หาโอกาสพักผ่อน(แบบจริงจัง)

ถือเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ เมื่อคุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากๆ เพราะการนั่งหน้าคอมฯ ทั้งวันมันคงไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณรื่นรมย์สักเท่าไร คุณน่าจะลองคุยกับหัวหน้าของคุณ เพื่อขอเวลาพักร้อนสักพัก แล้วลองเปลี่ยนสถานที่ดู อาจไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวในต่างจังหวัด หรือจะไปเที่ยวต่างประเทศ(ที่ไม่เคยไป) เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง เชื่อว่าเมื่อคุณกลับมา คุณจะรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

2. เช็คเป้าหมายที่แท้จริงเพื่อหาทางเดินให้ตัวเอง

การที่เราเกิดภาวะหมดไฟ สาเหตุหลักๆ มาจากความเครียดจากงาน ความเบื่อหน่ายจากการทำอะไรซ้ำซากจำเจ ซึ่งล้วนทำให้คุณไม่มีความสุข ดังนั้นถึงเวลาที่คุณควรจะ “ตรวจเช็คเป้าหมาย” ของคุณ ว่ามันสอดคล้องกับเส้นทางเดินที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือตอบสนองความต้องการของคุณอยู่หรือไม่ ที่สำคัญคือ คุณควรต้องซื่อสัตย์กับตัวเองให้มากที่สุดในการทำ Check List นี้ เพื่อจะได้แนวทางที่ใช่ที่สุด

3. เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตใหม่ดูบ้าง

การได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ก็ช่วยกระตุ้นให้จิตใจของคุณมันวูบวาบขึ้นมาได้ เช่น ลองเปลี่ยนเวลาตื่นให้เช้าขึ้นกว่าเดิม, เปลี่ยนวิธีการเดินทาง หรือลองทานอาหารเมนูใหม่ๆ ดูบ้าง เชื่อว่า คุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นแน่นอน

4. หางานอดิเรกหรืองานที่ชอบ/เรียนรู้เรื่องที่สนใจ

ลองถามตัวเองดูว่า ทุกวันนี้เมื่อกลับถึงบ้านแล้วคุณทำอะไร ถ้ายังไม่มีอะไรพิเศษก็ลองหาอะไรที่สนใจทำสักอย่าง เช่น ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา จัดสวน หรือถ้าอยากเป็นงานเป็นการ ก็ลองเข้าคอร์สเรียนภาษาคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมดู นอกจากแก้เบื่อแล้วยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นด้วย

5. มองคนที่ลำบากกว่าหรือหาบุคคลที่เป็นแบบอย่าง

หากการแก้ไขที่ตัวเองมันยาก ก็ลองดูคนที่ลำบากกว่าเรา ตกงาน เป็นหนี้ 50 ล้าน ไม่มีบ้านจะอยู่ ก็พอช่วยให้มีกำลังใจขึ้น หรือไม่ก็เลือกบุคคลอื่นเพื่อยึดถือเป็นแบบอย่าง ควรเป็นคนที่คุณรู้สึกประทับใจ นับถือ และรู้สึกเกิดแรงบันดาลใจทุกครั้งเมื่อนึกถึงบุคคลนั้น อาจจะเป็น คุณพ่อคุณแม่ หัวหน้าที่คุณนับถือ หรือบุคคลในแวดวงไอทีด้วยกัน ดูว่ากว่าที่เขาจะสำเร็จในวันนี้ เขาเคยผ่านความยากลำบาก ต้องฝ่าฟัน ผ่านอุปสรรคอะไรในอดีตมาบ้าง เขาผ่านมันมาได้อย่างไร และให้คิดว่า วันหนึ่งเราก็สามารถทำให้ได้อย่างเขาเช่นกัน ถ้าคุณคิดได้แบบนี้แล้ว น่าจะทำให้คุณฮึกเหิม และฮึดสู้ขึ้นได้แน่นอน

6. ปรับทัศนคติให้อยู่ทางบวก เปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่

ลองสังเกตดู เมื่อไรที่คุณเกิดความทุกข์ใจ คุณมักจะคิดถึงเรื่องอะไร เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องทางลบ แทบทั้งสิ้นทั้ง User ที่จู้จี้ตามงานตลอดเวลา, Coding แล้วมี Bug เยอะแยะมากมาย หรือ หัวหน้าที่เอาแต่สั่งๆๆๆงาน แล้วจะเอาเลยวันนี้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างงั้นลองเปลี่ยนเป็นว่า ถ้าเราทน User ได้แสดงว่าจิตเราแข็งแกร่งมาก, ยิ่ง Bug เยอะ ยิ่งเพิ่มประสบการณ์ และ ที่หัวหน้าสั่งงานเราเยอะ เพราะเราเก่ง มีความรับผิดชอบหัวหน้าเลยกล้าสั่งงานมา เป็นต้น เห็นไหมเมื่อลองโฟกัสอะไรที่เป็นบวก เราก็จะรู้สึกดีขึ้นและมีกำลังใจขึ้นเยอะ

7. เปลี่ยนงานใหม่

บางทีการอยู่ในที่ทำงานเดิมๆ อยู่กับ Comfort zone ซึ่งคุณรู้สึกว่าไม่ต้องไขว่คว้าอะไรมากมาย มันก็เลยทำให้คุณเบื่อหน่ายได้ และถ้ารู้สึกว่างานที่ทำอยู่ มันไม่ Happy มันถึงทางตันแล้ว และไม่ตอบสนองเป้าหมายที่เราต้องการแล้ว เราก็คงต้องเปลี่ยนงานใหม่ เพื่อไปเจอความท้าทายใหม่ๆ ดูบ้าง แต่ข้อนี้ขอให้ทางเลือกท้ายๆ เพราะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ซึ่งการทำ Check List เพื่อเช็คเป้าหมาย ที่ได้แนะนำไปแล้วในข้อ 2 จะเป็นตัวช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้น

ในการทำงานทุกอย่างล้วนมีปัญหาแทบทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าเราจะมีทัศนคติ ที่จะมองสิ่งนั้นอย่างไร ถ้าเรามองใน “แง่บวก” ว่า “อุปสรรคจะช่วยให้เราเก่งขึ้น” เราก็จะเกิดการพัฒนา แต่ถ้าเรามองใน”แง่ลบ” ว่ามัน”ยาก น่ารำคาญ วุ่นวาย” ก็ยิ่งทำให้จิตใจเราถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ จนเกิดภาวะหมดไฟในการทำงานได้ ทีมงาน ISM ขอเป็นกำลังใจให้คนไอทีทุกท่านผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ด้วยดี สู้ สู้!

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) บริษัทเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการย่างเข้าสู่ปีที่ 27 มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานที่ท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ามากมายกำลังรอคุณอยู่

อ้างอิง : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข http://www.dmh.go.th/

en