#1 tech recruiter in thailand

“5 จุดผิดพลาด” ใน Resume ของคนไอที

แน่นอนว่าคนทำงานส่วนใหญ่ล้วนเคยเขียน Resume กันมาแทบทั้งนั้น แต่ว่าใครจะเขียนดี ไม่ดี หรือ เขียนแล้วมีโอกาสได้สัมภาษณ์งาน แล้วได้งานหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย แต่ด่านแรกที่สำคัญมากก่อนจะก้าวไปขั้นถัดไปก็อยู่ที่เจ้า Resume หรือ CV ที่หลายๆ คนเรียกกันนี่แหละ บางคนอาจจะไม่รู้ฤทธิ์เดชของ Resume ว่ามันมีอานุภาพร้ายแรงแค่ไหน หากผู้เขียน เขียนแบบไม่ใส่ใจ หรือให้ความสำคัญ เพราะบางคนที่ว่า อาจจะว่างงานนานหลายเดือนเลยทีเดียว เพียงเพราะไม่ให้ความสำคัญกับมัน ซึ่งเท่าที่เจอคนไอทีเอง ก็มีจำนวนไม่น้อยที่อาจจะยังมีข้อผิดพลาดในการเขียน Resume อยู่หลายๆ จุด ดังนั้น วันนี้ทาง ISM จึงรวบรวม “5 จุดผิดพลาด” ใน Resume ของคนไอที มาให้รู้กัน

1. ไม่ระบุทักษะที่โดดเด่น/ผลงานที่ประสบความสำเร็จ

ข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญมากเลยยกมาเป็นอันดับแรก เพราะเป็นจุดที่ทำให้ผู้พิจารณา จะเลือกคุณมาสัมภาษณ์หรืออ่าน Resume ส่วนต่อไปจนจบหรือไม่ สำหรับคนไอทีที่มีประสบการณ์ทำงานมานาน อาจจะลืมไปเคย ใช้รูปแบบ Resume ตั้งแต่จบใหม่จนผ่านมา 10 ปีแล้ว ก็ยังใช้อันเดิมอยู่ ถึงคุณจะเป็นคนเก่งมากมีผลงานมากมายแต่ถ้าไม่ได้แสดงออกมาให้คนอื่นเห็น หรือ วางมันให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมแล้ว Resume ของคุณก็อาจจะดูไม่แตกต่างกับคนอื่นๆ เลย ดังนั้น ใครเก่งใครเจ๋งเรื่องไหน คุณต้องเอามาโชว์ มีผู้สมัครบางคนคิดว่า “เด่นมากไปเดี๋ยว HR จะหมั่นไส้เอา” กรุณาลืมข้อนี้ไปได้เลยครับเพราะ HR เค้าอยากได้คนเจ๋งๆ เข้าองค์กรเขาอยู่แล้ว อย่าลืมนะครับว่า “นี่คือโลกของการแข่งขัน” ถ้าถูกเรียกสัมภาษณ์แล้วคุณถึงค่อยมาคิดดีกว่าว่า จะตอบหรือวางตัวอย่างไร ไม่ให้ผู้สัมภาษณ์เขาหมั่นไส้เอา ส่วนกรณีน้องจบใหม่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะ สามารถเอาผลงานต่างๆ ที่เคยทำแล้วได้รับรางวัลหรือผลงานเราถูกนำไปต่อยอดอื่นๆ ก็สามารถนำมาแสดงในจุดนี้ก็ได้เช่นกัน

2. ตัวสะกด/ไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษผิด

ถ้าใครที่เป็นแฟนเพจ https://www.facebook.com/ISMTechnology/ มาสักระยะหนึ่ง คงจะสังเกตเห็นได้ว่า ทีมงานมักจะกล่าวถึง “ภาษาอังกฤษ” อยู่เสมอ เพราะถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนไอที อยู่มิใช่น้อย เท่าที่ทราบจากทีม IT Consultant มักจะพบว่ามี 2 ข้อผิดพลาดหลักๆ ในภาษาอังกฤษ ประการแรกคือ สะกดผิด ซึ่งเจอบ่อยมากที่สุด ต่อมาคือ ผิดหลักไวยากรณ์ ซึ่งสำคัญเช่นกัน ไอทีบางคนอาจจะคิด(เข้าข้างตัวเอง)ว่า เราเป็นคนไทย ใช้ภาษาไทยก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก HR ก็คนไทย แต่เชื่อว่าบริษัทใหญ่ มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ หรือแม้แต่บางแห่งจะเป็นบริษัทขนาดกลางหรือเล็ก ก็เริ่มให้ความสำคัญกับ Resume ภาษาอังกฤษแล้วเช่นกัน ดังนั้น ยุคนี้หากใครที่ไม่ได้เลยจริงๆ คุณจะอยู่ยาก

3. เขียนข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

นี่เป็นอีกข้อหนึ่งที่สำคัญเพราะ ผู้สมัครบางคนอยากได้งานมาก คุณสมบัติระบุอย่างไรก็เขียนใน Resume ว่าเราได้ทักษะนั้น ภาษาคอมฯ นี้ ตามที่ประกาศตำแหน่งงานระบุไว้ เพื่อหวังจะได้ถูกเรียกสัมภาษณ์แล้วค่อยไปวัดดวงเอาในห้องสัมภาษณ์ แต่สุดท้ายแล้วระวังตกม้าตายในวันสัมภษณ์นะครับ เพราะ คงจะมีการสอบถามรายละเอียดเชิงลึกว่าคุณทำได้ตามนั้นจริงหรือไม่ บริษัทเขาระบุว่าต้องการคุณสมบัติแบบนี้ แสดงว่าเขาก็มีความรู้เรื่องนั้นด้วยแน่นอนไม่มากก็น้อย หรือไม่ก็อาจมีบททดสอบบางอย่าง เช่น ให้เขียนโปรแกรมตามโจทย์ที่ให้มา เป็นต้น ถ้าทำไม่ได้คุณก็จบทันที เพราะคุณทำให้เขาเชื่อใจไม่ได้ อีกเรื่องคือ “เงินเดือน” บางคนปัจจุบันเงินเดือนน้อยมากทั้งที่คุณเป็นคนเก่ง แต่กลัวว่าฐานปัจจุบันน้อยไป เกรง HR จะกดเงินเดือนเลยโกหก ว่าได้มากกว่าความเป็นจริง อันนี้เรียกว่า “พลาดอย่างมหันต์” เพราะบางที่อาจขอสลิปเงินเดือนหรือโทร.มาสอบถาม HR บริษัทเดิมก็มีให้เห็นมากมาย คุณคิดว่าจะมีบริษัทไหนจ้างคนโกหกมาทำงานล่ะ อยากแนะนำให้เขียนตามจริง หรือทักษะใกล้เคียงที่เรารู้เราทำได้จะดีกว่าไหม ยิ่งถ้าคุณทำข้อ 1,2 ดีๆ คุณอาจมีโอกาสมาอธิบายรายละเอียดในห้องสัมภาษณ์ได้

4. ใช้ Resume เดียวสมัครไปทุกที่

มีคนไอทีหลายคนเข้าใจผิดในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ก็ในเมื่อเราเขียนครบถ้วน ถูกต้องแล้วนี่ ทำไมถึงใช้สมัครงานไม่ได้ คำตอบคือได้ แต่คุณกำลังแค่มองในมุมตัวเองเพียงอย่างเดียวอยู่นะครับ ณ ขณะนี้ HR เขากำลังเลือกคนที่เก่งและเหมาะมากที่สุดอยู่ เราควรจะใส่ใจเขาสักนิด ตำแหน่งงานเดียวกัน แต่ถ้าอยู่คนละบริษัท ในเนื้องานอาจจะมีความต่าง หรือคุณสมบัติผู้สมัครที่ไม่เหมือนกันก็ได้ ลองพิจารณาว่า ตำแหน่งนี้ต้องการคนมีคุณสมบัติใด เรามีหรือไม่ ถ้ามีเราก็ควรปรับ Resume ให้ตรงหรือคล้ายกับสิ่งที่เขาต้องการให้มากที่สุด อีกอย่างหนึ่ง HR ซึ่งเป็นคนคัดกรอง Resume อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญในบางสายงานมากอย่างหัวหน้างาน ดังนั้น ถ้า HR เห็นว่า คุณสมบัติเราตรงกับที่บริษัทต้องการแล้ว คุณก็มีโอกาสสูงในการถูกคัดเลือกพิจารณาเพื่อมาสัมภาษณ์งานต่อไป

5. เขียนข้อมูลติดต่อ(อีเมล์,เบอร์โทรศัพท์) ผิด

ข้อนี้น่าเสียดายเป็นที่สุด เพราะเขาอยากจะติดต่อเพื่อเรียกคุณมาสัมภาษณ์ แต่คุณดันกรอกเบอร์โทรผิด หรือพิมพ์อีเมล์ผิด HR ก็ไม่สามารถติดต่อคุณได้ ยิ่งองค์กรไหนมีผู้สมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก HR อาจจะข้ามคุณและลืมไปเลยว่าคุณก็เป็นคนมีคุณสมบัติโดดเด่นเช่นกัน ดังนั้น โฟกัสให้มากๆ กับการเขียน Resume

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น รูปถ่าย, รูปแบบ resume, รูปแบบตัวอักษร, ช่องไฟที่เหมาะสม ก็ล้วนมีผลต่อการพิจา Resume ได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้สมัครงานที่เป็นคนไอที จึงควรให้ความสำคัญกับการเขียน Resume ให้มากที่สุด

สำหรับคนไอทีที่อยากร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ได้ร่วมงานกับมืออาชีพ และมีโอกาสพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ลองหาที่ปรึกษาดูสิครับ ISM เรามี IT Consultant ที่ให้คำปรึกษาที่ดีและหางานเหมาะสมให้กับคุณได้

ISM Technology Recruitment Ltd. (#1 Tech Recruiter in Thailand) บริษัทเราเชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ เปิดทำการย่างเข้าสู่ปีที่ 27 มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย หากคุณเป็นคน IT ที่อยากทำงานที่ท้าทายและร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ ฝากประวัติการทำงาน (Resume) ของคุณไว้กับ ISM ได้ที่ https://www.ismtech.net/submit-your-resume แล้วคุณจะพบว่าอนาคตและโอกาสก้าวหน้ามากมายกำลังรอคุณอยู่

enen